เผยวัคซีนสยบมะเร็งปากมดลูกได้ผล




           แพทยสภารอประเมินก่อนตัดสินใจรณรงค์ทั่วประเทศ
           นายกแพทยสภาเผย วัคซีนมะเร็งปากมดลูกสามารถช่วยแก้ปัญหาโรคมะเร็ง อันดับหนึ่งที่คร่าชีวิต ผู้หญิงไทยได้ และกำลังอยู่ ระหว่างประเมินความคุ้มทุนก่อนประกาศ ให้เป็นแผนรณรงค์ฉีดภูมิคุ้มกัน ทั่วประเทศ หลังบริษัทยาต่างประเทศออกมาประกาศผลสำเร็จในการทดสอบในมนุษย์กว่า 10,000 คน ป้องกันได้ 100 % ผลทดลองกับคนไทย รอสรุปปลายปีนี้

           ความสำเร็จในการทดลองวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ที่บริษัท เมอร์ค แอนด์ โค. อิงค์ ประกาศไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นข่าวดีสำหรับสตรีนับ 500,000 รายทั่วโลกที่ป่วยเป็นมะเร็งชนิดนี้ โดยในแต่ละปีจะมีสตรีที่เสียชีวิตด้วยมะเร็งปากมดลูกถึง 300,000 ราย

           แผนการทดสอบวัคซีนเอดส์กับมนุษย์ครั้งนี้ ได้ออกแบบให้มีกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 25,000 คน โดยมีอาสาสมัครจาก 33 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมแบ่งเป็นกลุ่ม ตัวอย่างในประเทศยุโรป และเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย

           การทดลองในยุโรป ได้ใช้กลุ่มตัวอย่างสตรีอายุระหว่าง 16 – 25 ปี จำนวนกว่า 12,000 คน แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริง 6,802 คน และ กลุ่มที่ได้รับวัคซีนหลอก ( placebo) 6,075 คน ซึ่งคัดเลือกจากประเทศบราซิล โคลัมเบีย เดนมาร์ก หินแลนด์ อเมริกา ฯลฯ เป็นต้น


           เป็นหมาย ของการทดสอบวัคซีนดังกล่าว เพื่อดูประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี 16 และ 18 ซึ่งเป็นไวรัสตัวการก่อโรคมะเร็งปากมดลูก ร้อยละ 70

           จากการ ติดตามผลและให้วัคซีนเป็นระยะพบว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถ ป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี 16, 18 ได้ ถึง 100 % โดยได้รับวัคซีน 3 โดส โดยใช้ ระยะเวลาการติดตามผลนาน 24 เดือน



           ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทย์สภา ให้ความเห็นว่า มะเร็งปากมดลูกเป็น มะเร็งที่ผู้หญิงไทยเป็นมากที่สุด ตามมาด้วยมะเร็งเต้านม (ในกรุงเทพฯ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม มีอัตราสูงกว่าจังหวัดอื่น) และมะเร็งปอด ถ้ามีวัคซีนป้องกัน มะเร็งปากมดลูก จะช่วยแก้ ปัญหาของสตรีไทย และ ทั่วโลกได้

          
“ มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคติดต่อทางเพศ อย่างหนึ่งจากการติดเชื้อไวรัส ที่เข้าไปฝังตัวอยู่ข้างใน รอเวลาพัฒนาเป็นมะเร็ง ในแต่ละปีคนไทยต้องเสียเงิน จำนวนมาก ในการตรวจคัดกรอง มะเร็ง ปากมดลูก ด้วย เทคนิค Pap smear แต่เนื่องจากเป็นกา รตรวจภายในผู้หญิงบางคนอาจไม่อยาก ตรวจ “ นายก แพทยสภา กล่าว


           ไวรัสปาพิลโลมา หรือเอชพีวี เป็นไวรัสที่ติตต่อมาทางเพศสัมพันธ์ในมนุษย์ และ ไวรัสเอชพีวีทั้งชนิด 16 และ 18 นี้ เป็นต้นเหตุมะเร็งปากมดลูกถึงร้อยละ 70 มะเร็งชนิดนี้คร่าชีวิตผู้หญิงประมาณ 3 แสนคน ทั่วโลกต่อปี ซึ่งรวมถึงประมาณ 4 พันคน ในสหรัฐ ขณะที่สถิติ ของไทยอยู่ในปี 2539 มีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก 6,268 ราย และปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิต 1,632 ราย




สนับสนุนข้อมูลโดย